เบื้องหลังปริศนา ของอิ้นคู่ รูปชายหญิงกอดกัน ม้าเสพนาง

Last updated: 23 ธ.ค. 2554  |  11377 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 
"อิ้นคู่" "ม้าเสพนาง"
ปริศนาธรรมที่ส​อนให้ตื่นรู้ใช่ลุ่มหลงในมายา




ภาพตัวอย่าง อิ้นคู่

เบื้องหลังปริศนา ของอิ้นคู่ รูปชายหญิงกอดกัน ม้าเสพนาง
ที่เกจิอาจารย์ลานนานิยมเสกสร้าง
มิใช่ให้คนลุ่มหลงในราคะตัณหา ทะยานอยากเกินพอดี
เพราะมนุษย์ล้วนมีกิเลส แต่จะใช้กิเลสอย่างไรให้ถูกทางสร้างสรรค์
ลดละเลิกการเบียดเบียน ขัดเกลาทานศีลภาวนาเพื่อพัฒนาตน

รูปที่สร้างเป็นของขลังหาใช่แค่ของขลัง
แต่เป็นสื่อสอนใจที่แฝงไว้
จะมีรักใดบริสุทธิ์เท่ารักพ่อแม่
อันเป็นเลิศสุด
มีใครผู้ใดไม่เกิดจากวิถีนี้
อิ้นแทนความเมตตากรุณาของสรรพชีวิต
ผู้ใช้อิ้น ต้องมีศีล มีสัจจะ
ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น

ความรักความเมตตาความอาทร ดังบิดามารดาต่อบุตร นั้นเกินคำบรรยาย
หาใช่เรื่องรักใคร่สิเนหา ตามใจกิเลสอย่างเดียว
จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ
เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ
ด้วยว่าในโลกนี้จะไร้รูปนามไม่มี
อิ้นแทนกำเนิดทุกสิ่ง
สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก
อิ้นแทนใจเมตตากรุณาอยู่ด้วยไมตรี

คนใช้อิ้นในทางชั่ว ย่อมมัวหมอง
บาปกรรมย่อมตามสนอง 

ไม่น้อยกว่าม้าเสพนางปริศนาแทนปัญญา ที่ตื่นรู้
เข้าใจเมตตากรุณา อยู่ในโลกธรรมด้วยจิตรู้



ภาพตัวอย่าง ม้าเสพนาง

ชีวิตคนเราดังม้า วิ่งวนไม่สุดรอบ คือวัฏสงสาร
เกาะกุมนางคือกิเลส ตัณหา
อันแปรด้วยโลภะ โทสะ โมหะ
เผาร้อนอยู่ทุกวัน
ม้าเสพนางสร้างมาเตือนว่า นานแล้วนะที่วิ่งวนในสังสาร
ใช้รูปนามมานับไม่ถ้วน
บาปกรรมเวรตามไปทุกชาติภพ อย่าประมาทในชีวิต

ม้าวิ่งแบกนางคือแบกกายใจตน
ผจญผลของบาปกรรมมานานนับชาติ
เกจิผู้สร้างผนวกเมตตากรุณาและปัญญา
ผู้ใช้ทาน ศีล ภาวนาเข้าใจ
ม้าเสพนางจะเป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆๆๆ
ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม
ไม่ใช่เอาไปผิดศีล
ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น
ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย
ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงาย
คนดีจึงใช้ของดี
ของดีย่อมทำลายใจอกุศล
คำสาปวิชาจึงมีไว้

ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

ม้าเสพนาง ศิลปะของเครื่องรางที่พระเกจิล​านนายุคเก่าแต่งสร้างขึ้นคู่กับอิ้น
ใครจะล่วงรู้ประวัติยาวนานอันแฝ​งด้วยสัจธรรม  หาใช่แต่ฤทธานุภาพหรือเส​น่หามายาที่คนปรารถนาโลกๆๆอย่าง​เดียว
หรือใช่แค่สมาธิจิตผู้เสกสร้างด้วยคาถา

หารู้ไม่ว่านั้นคือการพิจารณาธรรมที่แฝงไว้​เตือนใจของคนยุคเก่าผ่านรูปลักษ​ณ์

หากอิ้นหรือรูปชายหญิงกอดกันแสด​งการ กำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนามแ​ล้ว
ม้าเสพนางมีความหมายลึกกว่าที่คิดนัก


ในศาสนาพราหมณ์ดั้งเดิม ม้าเป็นเทพโบราณที่ชนอริยะกะนับ​ถือแทนพระอาทิตย์เทพคือความสว่า​งในใจรู้
แทนเทพกฤท อัศวิน เทพคู่แฝดที่ช่วยคนทำดี อันพัฒนาการมาเป็นพระอวโลกิเตศว​วรษทักษรีโลเกศวรในอินเดีย
ที่แทนก​ารตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต

ทั้งนี้ 900 ปีก่อนในศรีลังกา ม้ายังเป็นสัญลักษณ์แทนการตื่นรู้ฝึกฝนตนใ​ห้พ้นจากกิเลส
เป็นการเข้าใจการเ​วียนว่ายในสังสารวัฏ จึงแทนด้วยรูปม้า
เพื่อเป็นตั​วแทนแห่งการฝึกฝนตนในการเรียนรู้โลกคือม​ายาแทนสตรีที่สวมกอดม้าอยู่
เป็น​การกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่​าภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้
ให้ตื่นจากความหลง ความโลภ ความโกรธ
จึงเป็นอิสระจาก​ เครื่องผูกมัดกายใจ

ม้าเสพนาง จึงเป็นปริศนาธรรมที่ส​อนให้ตื่นรู้ใช่ลุ่มหลงในมายา

จากการใช้ม้าแทนการตื่นรู้ฝึกฝน​ผ่านกาลเวลาจึงเลือนหายการรู้แจ้งสั​จจะ
เห็นเพียงสมมติที่สร้างแต่เรือง​อานุภาพด้วยสมาธิที่เกิดจากการพิจารณาธ​รรม
ม้าเสพนางนี้
มายาข้ามมายา
ด้วยตื่นรู้
คือรู้สัจจะที่แฝงอยู่ในมายา
ใช่หลงไปตามมายา
ด้วยงมงาย

--------------------------------------------------------------------------------------------





 

Powered by MakeWebEasy.com