มาปิดอบายภูมิด้วยการจัดระบบชีวิตตัวเราเองกันเถอะ

Last updated: 23 ธ.ค. 2554  |  6260 จำนวนผู้เข้าชม  | 


มาปิดอบายภูมิด้วยการจัดระบบชีวิตตัวเราเองกันเถอะ

คำว่ามรรคผลไม่พ้นสมัย ยังใช้ได้อยู่ตั้งแต่พุทธกาลตราบปัจจุบันนี้ เพียงแต่เราท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่ที่จะลองปฏิบัติตามดูเท่านั้น

แน่นอนที่สุดเราๆท่านๆคงไม่อยากตกนรกหมกไหม้หรือกลายเป็นเปรตน่าสงสารสุนัขจรจัดหรือบรรดาสัตว์ใดๆแน่แท้แม้กระทั่งพวกอสุรกายดุร้ายป่าเถื่อน
แน่นอนว่าหากใจเราวางจากโลภโกรธหลงได้มากเท่าใด ภพภูมิเหล่านี้คงไม่ได้เป็นที่อยู่ของเราแน่แท้

เราจะเลือกเดินทางไหนมีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่กำหนดเอง...ไม่มีใครสามารถมาบังคับเราได้...



หากท่านเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า มนุษย์เดินดินเช่นเราๆก็เข้าสู่อริยะจิตได้ง่าย
นั่นคือการฝึกตนตามหลักมรรคาแห่งพระโสดาบันนั้นเอง
เป็นพระง่ายๆที่ใจไม่ต้องบวชอยู่ในโลกและสังคมโดยไม่ทุกข์
เป็นผู้ใกล้ต่อการพบพระนิพพาน
พยายามลองฝึกตนตามนี้

1.  รักษาศีล 5 โดยเคร่งครัดโดยไม่มีข้อแม้ใดๆให้ผิดศีล คิดพูดทำดีด้วยสติเท่าทันนั่นคือหมั่นสั่งสมกุศลแก่ตนทุกๆทาง

2.  หมั่นพิจารณาชีวิตของตนอยู่เสมอ ตัวเราและสรรพสิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดถือ สอนตนเองให้ยอมรับกฏแห่งความจริงนี้ให้ได้ แม้จะหวั่นไหวบ้างก็เป็นธรรมดาอย่ากังวลแค่รู้แล้วฝึกวางสิ่งยึดมั่นทีละน้อยๆ

3.  เชื่อมั่นและศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง บำรุงอุปถัมภ์ด้วยใจบริสุทธิ์ปราศจากกังวลสงสัย สุขใจในการเป็นผู้ให้สิ่งดีๆ ดีใจที่ได้ทำวัดพระพุทธรูปพระธรรมคัมภีร์อย่าได้ละเลยร่วมสร้าง

4.  อธิษฐานปรารถนาทุกกุศลผลบุญสร้างเป็นรัตนตรัยบูชาเพื่อพระนิพพานอย่างเดียว มุ่งหนทางพ้นทุกข์ชาตินี้ ปิดเกิดตายแม้ชีวิตจะดับสิ้นไปก็ไม่หวั่นไหวในทุกสถานมีความมุ่งมั่นในพระนิพพาน เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่มีสิ่งใดยึดมั่นไว้ได้จึงตรงมั่นต่อพระนิพพานแน่แท้

5.  หมั่นเจริญสมาธิภาวนาชำระจิตให้ผ่องใสอยู่เสมอไม่ขุ่นมัว มีเวลาให้เจริญสมาธิมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ หากถนัดสมาธิแบบใดให้ฝึกให้ชินติดใจไว้มากน้อยให้ทำไว้เสมอๆ

6.  หมั่นพิจารณาถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตทุกๆวัน มองให้เข้าใจแล้วทำใจให้สดชื่นไม่ทุกข์สุขโศกเศร้าเกินไปมองให้ธรรมดาๆๆ อาจจะทุกข์ใจบ้างก็เป็นธรรมดาอย่าให้กังวลนานๆต้องยอมรับให้ได้

7.  หมั่นสร้างกุศลส่งเสริมคนดี มีบุญมีส่วนร่วมในบุญความดีอย่าได้ขาด จะคนสัตว์แม้ผู้มีธรรมเร่งประกอบทานบารมีตามกำลัง
 

อบายภูมิปิดแน่แท้แก่ผู้เจริญตนได้เช่นนี้ๆๆ


หากกรรมยังมีอยู่ แค่เกิดอีก 1 หรือ 3 หรือ 7 ชาติจะไม่มีวันตกต่ำทุกเมื่อทุกสถาน
หากมีวิบากเล็กน้อยอาจได้เกิดบนดาวดึงส์กราบพระจุฬามณีรอนิพพานที่นั่น
แต่ถ้าหากตั้งจิตมั่นโดยแท้...จิตมั่นคงตรงต่อพระนิพพานไม่ปรารถนาเกิดในกายใดภพภูมิใด...
ก็จะถึงนิพพานชาตินี้โดยง่าย...วิบากกรรมทั้งหลายมิอาจส่งผลอีกต่อไป





นอกจากนี้การทำบุญทำได้หลายๆวิธี

ขอเพียงทำแล้วอิ่มใจบุญก็เกิด ยิ่งนึกถึงบ่อยๆๆๆ บุญนี้ยิ่งแผ่ไพศาล
หากได้โมทนาบุญแก่กันและกันเหมือนเราท่านมีส่วนร่วม ยิ่งมีอานุภาพไม่มีประมาณ

การทำบุญทำได้ 10 ประการ

1. ทาน
2. ศีล
3. ภาวนา
4. ฟังธรรม
5. แสดงธรรม
6. โมทนาบุญ
7. อุทิศผลบุญบอกบุญ
8. ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมพระพุทธศาสนา
9. มีความอ่อนน้อมถ่อมตน
10. คิดเป็นธรรม ยิ่งทำให้กายวาจาใจใสสว่างเท่าใดๆๆบุญก็เกิดเท่านั้น

เหล่านี้คือหนทางแห่งบุญในพระพุทธศาสนาที่ทุกๆท่านทำได้แทบจะไม่เสียเงินเลย แต่มีบุญอันมีอานุภาพมากอันหนึ่ง ที่ผู้ใดชนใดได้น้อมใจทำประกอบบุญทั้ง 10 ที่กล่าวมาแล้วจะเป็นตัวคูณชั้นสูง ไม่มีหมดมีแต่เพิ่มพูนทวียิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆขึ้น
ทำให้ใกล้ต่อ มรรคผลนิพพาน มาก นั่นก็คือ การทำมหาทานบารมี ที่มีองค์ประกอบครบพระรัตนตรัย จัดเป็นบุญฝ่ายทานขั้นสูงสุดฝ่ายทานบารมี

ทำไมได้จึงกล่าวเช่นนี้???
เพราะหาโอกาสทำได้น้อยมากนั่นเอง...

คือการประชุมสงฆ์จากทิศทั้ง 4 มารับสังฆทาน แล้วมีการสร้างพระพุทธรูปให้ชนบูชามีการเผยแผ่ความรู้ให้คนโมทนาบุญนี้ รวมถึงมีส่วนร่วมในการกระจายผลบุญนี้ให้รับรู้ บุญทานนี้จึงมีอานิสงส์มากเป็นมหาทานบารมีอันมีอานุภาพยิ่ง ทำให้ไม่อับจนในทุกที่ทุกสถาน เป็นการทำทานที่คุ้มค่า แค่บุญสร้างพระก็มีกำลังมากยิ่งเป็นต้นบุญแก่บุญทั้งปวงแล้ว ดังที่กองบุญได้เชิญชวนท่านสร้างมหาทานบารมีนี้จะเป็นบุญสุดๆแห่งชีวิตของท่านจริงๆ
......ผู้มีบุญเท่านั้นจึงได้สร้างบุญนี้

โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ


 

Powered by MakeWebEasy.com